ปัญหาของคนบ้างาน ไม่ใช่เรื่องไม่มีเวลาให้แฟน แต่เพราะเราทำตัวเป็นหัวหน้าอีกคนของแฟน

คู่ผมเป็นคู่ที่ไม่เคยมีปัญหาออกสื่อเลย ในสายตาคนรอบข้าง เรารักกันมาก เราคบกันมานานและรักกันดี ถึงขั้นที่ใครๆ ก็มักจะถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน

ทุกอย่างในความคิดผมก็ราบรื่นดี
จนผมจับได้ว่าแฟนนัดเดทผู้ชายอื่น...

ถึงแม้ในรายละเอียดจะไม่เชิงนัดเดทเสียทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นของกระทู้นี้ ก็เลยจะขอข้ามรายละเอียดในส่วนนี้ไปนะครับ (ออกตัวเผื่อเจ้าตัวมันมาอ่านเจอ เพราะใช้อมยิ้มจริง 555)

อย่างที่บอกครับ เราคบกันมานานและรักกันดี เหตุผลหนึ่งก็เพราะเราทั้งคู่เป็นคนมีเหตุผล

หลังจากพายุอารมณ์ผ่านไป เราสองคนจับเข่าคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น

แรกเริ่มเราก็ไม่รู้สาเหตุของปัญหาจริงๆ หรอก แฟนผมเริ่มก่อน ว่าเค้าเหงา ผมรู้ตัวทันทีว่ามันเพราะผมบ้างาน

บ้าขนาดไหนน่ะหรอ ก็หนักขนาดที่ 4 เดือน เจอหน้ากันประมาณ 10 วัน ตลอดช่วงเวลานั้น

ด้วยความห่างเหินขนาดนี้ แฟนก็ชักสงสัยตัวเค้าเองว่ารักเราแบบเป็นพี่ชายหรือเปล่า เลยเริ่มหาคำตอบด้วยตัวเอง จึงเป็นที่มาของเดทนั้น

คนอื่นๆ อาจจะคิดว่า นี่ไง ปัญหา
เปล่าครับ

แฟนผมไม่ได้มีปัญหาเรื่องที่เราไม่ค่อยได้เจอกัน นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย

โลกทุกวันนี้เจอกันออนไลน์ง่ายจะตาย
รักทางไกลไม่ใช่เรื่องยากเหมือนในอดีต

แล้ว ความเหงาเกิดจากอะไร?
#หักห้ามใจไม่ให้เล่นมุก

เพราะพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่คนบ้างานทุกคนมีครับ
"เราคือนักแก้ปัญหา"

ยิ่งเราทำงานเก่ง เราจะยิ่งมีนิสัยนี้ที่รุนแรงมากขึ้น

ทุกครั้งที่เราโทรคุยกัน ผมมักจะนำนิสัยนี้มาใช้กับแฟนโดยตลอด 

เช่น เค้ามาบ่นเรื่องงาน ผมก็จะไต่สวนแล้วก็สั่งให้เค้าแก้โน้นแก้นี่ ราวกับว่าผมเป็นเจ้านายของเค้า

คุยกับผมทีไร เครียดกว่าเดิมทุกที
เราจึงคุยกันน้อยลง น้อยลง
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราไว้ในแต่ละวันก็มีแค่คลิปแมวน่ารักๆ ที่แชร์ให้กันดูวันละสองสามคลิป ไม่มีการสนทนาประเด็นใดเพิ่มเติม

คนบ้างานก็เหมือนคนถือค้อน ที่เห็นทุกอย่างเป็นตะปู 

ปัญหาบางอย่าง แก้ด้วยค้อนไม่ได้
ปัญหาบางอย่าง ให้คนอื่นแก้ก็ได้

ในวันที่เค้าเหนื่อยล้าจากงานต้องการกำลังใจมากที่สุด ก็กลับมาเจอแฟนที่เหมือนเป็นหัวหน้าคนที่สอง

ผมไม่เคยยืนให้เค้าซบไหล่เลยตลอดสี่เดือน

เมื่อคิดได้ดังนี้ ก็เลยอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ข้อคิดจากบทเรียนของผมครับ

เราจะบ้างานแค่ไหนก็ได้ แต่อย่าทำตัวเป็นหัวหน้าอีกคนของแฟน อย่าพยายามแก้ทุกปัญหาที่ได้ยิน เปลี่ยนไปเป็นคนฟัง เปลี่ยนไปช่วยด่า แล้วถึงเวลาที่เค้าอยากขอความเห็นจากเรา เค้าจะพูดเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่